เมื่อกิจกรรมนำพาไปสู่… เรื่องราวดีๆ ของชีวิต รู้จัก “บอล” กิติวงศ์ ชินวงศ์

โดย นายกิติวงศ์ ชินวงศ์


สวัสดีครับ ผมนายกิติวงศ์ ชินวงศ์ หรือ บอล ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ นักศึกษาทุนเพชรพระจอมเกล้า ด้านความเป็นผู้นำ


ชีวิตในรั้ว มจธ. เป็นอย่างไรบ้าง

สำหรับชีวิตในรั้ว มจธ. ของผมก็มี 2 ส่วน การเรียน และการทำกิจกรรม เรื่องการเรียนสำหรับภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เป็นภาควิชาหนึ่งที่เรียนหนักมาก วันๆ เจอแต่คำนวณ บางวันเรียนเสร็จก็มีลงแลปต่อ แต่สิ่งที่สัมผัสได้เลยคือ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าเหมือนครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่งเลย ดูแลตั้งแต่เข้าสัมภาษณ์ ก่อนเข้าปี 1 พี่ปี 2 ก็จะจัดค่ายติวให้น้องๆ เพื่อเตรียมความพร้อม พอเรียนจริงๆ อาจารย์ก็จะเต็มที่กับการสอนและการลงแลปอย่างมาก วิชาอะไรที่ยากๆ พี่ๆ ก็จะลงมาติวให้ เพื่อนที่เก่งๆ ก็ช่วยกันติว จะเห็นได้ว่าดูแลช่วยเหลือกันเหมือนครอบครัวจริงๆ แต่ก็ต้องอ่านเองด้วยนะ เพราะบางอย่าง เราก็ต้องฝึกฝนตัวเองด้วย จึงจะเรียนไหว

ส่วนการทำกิจกรรม ตั้งแต่เข้าปี 1 ผมก็เริ่มทำกิจกรรม ทั้งในส่วนของภาควิชา คณะ ชมรม และมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วงแรกผมก็เรียนรู้งานและช่วยพี่ๆ ไปก่อน พอมีไอเดียผมก็เริ่มรวมกลุ่มเพื่อนกันมาทำกิจกรรม ซึ่ง มจธ. ก็เป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เปิดกว้างทางด้านกิจกรรม ทำให้ไอเดียที่เราเสนอไปเกิดขึ้นและสามารถทำออกมาได้จริง พอรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำไปแล้วทำให้คนอื่นยิ้มได้ และมีความสุข ผมก็อยากจะทำต่อไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้จะขึ้นปี 4 แล้วก็ยังอยากที่จะทำอยู่เลย แต่ในการทำกิจกรรมก็ต้องแบ่งเวลาดีๆ ด้วย เมื่อเลือกที่จะทำกิจกรรมได้ ก็ต้องแบ่งเวลาเพื่อไม่ให้การทำกิจกรรมส่งผลกระทบต่อการเรียนได้

พอเราทำกิจกรรมเยอะๆ ทำให้รู้จักเพื่อนมากยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญหาอะไรก็สามารถช่วยเหลื่อซึ่งกันและกันได้ นี่คือผลของการทำกิจกรรมครับ


อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้เรามาทำกิจกรรมต่างๆ ในมหาวิทยาลัย

จริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว ตอนเรียนชั้นมัธยมศึกษา ผมก็ได้เป็นประธานสภานักเรียน พอได้เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทำให้รู้ว่า มจธ. เป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดกว้างในการทำกิจกรรมมาก ก่อนเข้าเรียนก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมรับน้องที่ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนและรุ่นพี่มากยิ่งขึ้นผมเลยมาเห็นว่า กิจกรรมเป็นเหมือนสะพานที่ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่างภาค ผมก็เลยพยายามเข้าร่วมกิจกรรมให้ได้เมื่อเรามีเวลาว่างจากการเรียน สำหรับการที่ผมได้เริ่มในการทำโครงการต่างๆ นั้น ทำให้ผมได้มองไปรอบๆ ตัว พอเราตั้งใจมองมันจริงๆ จะเห็นว่าปัญหาที่มีอยู่รอบตัวมีเยอะมาก ผมกับเพื่อนที่เห็นปัญหาเหมือนกัน และอยากแก้ไขปัญหาของสังคมจึงรวมตัวกัน ทำโครงการต่างๆ เพราะเห็นว่าการที่นักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวในการทำโครงการนั้นจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย และยังเป็นการสร้างจุดเริ่มต้น สร้างแนวทางให้คนอื่นๆ ทำต่อไป



เล่าถึงประสบการณ์ดีๆ หรือสิ่งที่ได้เรียนรู้จากทำโครงการ และกิจกรรม

ตอนปีหนึ่งผมเคยไปจัดค่ายที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกว่านานมากๆ ระหว่างทางผ่านเขาไม่รู้กี่ลูก จนมีความรู้สึกว่าไกลแบบนี้ใครจะมาอยู่ แต่พอพวกเราไปถึงแล้วมีนักเรียนมารอรับเราอยู่ ก็รู้สึกมีกำลังใจในการทำงานเลย

ผมรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้จัดโครงการเพื่อคนอื่น ผมรู้สึกว่าการที่เราได้เห็นรอยยิ้มของผู้รับมันมีความสุขมากจริงๆ เหมือนมันเป็นสิ่งเติมไฟให้เราทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นได้ เคยมีครั้งหนึ่ง ผมเคยไปจัดโครงการเพื่อคนตาบอด ก่อนที่จะกลับก็มีเด็กคนหนึ่งเข้ามากอดผมแล้วก็ยิ้มมันเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ ถึงแม้น้องเขาไม่ได้พูดอะไรแต่เหมือนเรารับความรู้สึกจากน้องเขาได้เต็มๆ

จริงๆ แล้วการทำกิจกรรม ก็เหมือนการเดินทาง เป้าหมายของเราคือปลายทางหรือเส้นชัย แน่นอนว่าทุกโครงการย่อมมีจุดประสงค์ในการทำโครงการ เมื่อจัดโครงการเสร็จแล้วไม่อยากให้มองแค่ความสำเร็จอย่างเดียว ให้มองว่ากว่าจะถึงเส้นชัย เราได้เก็บเกี่ยวอะไรระหว่างทางมาบ้าง เพราะบางทีระหว่างทางนั้นสอนเรามากมาย กว่าจะไปถึงเส้นชัย


นำความรู้จากการเรียน มจธ. ไปประยุกต์ใช้อย่างไร

จริงๆ แล้ว มจธ. สอนอะไรหลายอย่างมาก ตัววิชาที่เรียนไม่ได้มีแค่วิชาความรู้ ที่ใช้ในการประกอบอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีวิชา Gen ที่สอนให้ตัวเราพัฒนาตัวเองในหลายด้าน ทั้งทักษะกระบวนการคิดและแก้ปัญหาการทำงานร่วมกับผู้อื่น ซึ่งส่วนเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ อย่างเช่น ในการ จัดโครงการ 60 ปี มจธ. 60 โรงเรียน ร่วมสร้างแนวทางการป้องกันอันตรายจากฝุ่น PM2.5 ผมก็ได้นำทักษะความรู้ในห้องเรียนมาอบรมทำเครื่องมือวัดค่าฝุ่น PM2.5 ให้กับนักเรียน นอกจากนี้ ผมก็ได้นำทักษะการบริหารจัดการโครงการ และการบริหารคน มาใช้ในการจัดโครงการเพื่อให้โครงการที่ผมจัดมีประสิทธิภาพด้านการจัดการมากยิ่งขึ้น


ฝากถึงชาว มจธ. ที่สนใจ และอยากเข้ามาทำงานเดียวแบบบอล

ผมเชื่อว่าทุกคนมีใจที่จะทำเพื่อส่วนรวม และกล้าที่จะทำเพื่อคนอื่น อยากจะบอกว่า ชีวิตมันมีครั้งเดียว ลองดูสักครั้ง ว่าการเป็นผู้ให้มันมีความรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเอาคนที่ถนัดไม่เหมือนกัน มารวมกันได้แล้วทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง บอกเลยว่ามันจะออกมาดีแน่ๆ เหมือนกับจักรยานที่เกิดจากอุปกรณ์ต่างกัน แต่เมื่อรวมกันก็ทำให้จักรยานสามารถปั่นไปข้างหน้าได้ การทำโครงการหรืองานใดงานหนึ่ง ลองถามตัวเองดูว่าชอบทำเกี่ยวกับอะไร แล้วสิ่งที่ตัวเองชอบสามารถช่วยอะไรสังคมได้บ้าง

ลองมองไปรอบๆ แล้วจะเกิดไอเดียดีๆ ขึ้นมา ถ้าหากใครอยากทำให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยมีทุนสำหรับตรงนี้อยู่ บางทีคุณอาจจะเป็นคนต่อไปที่จะช่วยสร้างสรรค์สังคมก็ได้