ธรรมาภิบาล
นโยบายธรรมาภิบาลอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มี 4 มิติ
มิติที่ 1 คุณภาพ: ทุกภารกิจของมหาวิทยาลัยรวมถึง การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ และการสนับสนุนการผลิตบัณฑิตต้อง (ก) ดำเนินตามมาตรฐาน หรือเงื่อนไขความต้องการ และ (ข) ตอบสนองความต้องการ และสร้างความพึงพอใจต่อ “ลูกค้า” และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
มิติที่ 2 ความเป็นเลิศที่เกี่ยวข้อง: ความเป็นเลิศของการดำเนินการในทุกมิติ โดยมุ่งสร้างงานที่ (ก) มีความหมายต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย และ (ข) เป็นความภาคภูมิใจของประชาคม มจธ.
มิติที่ 3 ผลิตภาพ: สร้างมูลค่าและคุณค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์ ด้วยทรัพยากรที่มี (เช่น ทรัพยากรมนุษย์ การเงิน และวัสดุและอุปกรณ์)
มิติที่ 4 การกำกับดูแล: คือการทำตามหลักกการธรรมาภิบาลทั้งสิบดังนี้
รายละเอียดหลักการธรรมาภิบาลมีทั้งหมด 10 ข้อ
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance1.jpg)
ความมีประสิทธิผล
การบริหารรัฐกิจต้องใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และนำไปสู่ผลิตภาพ ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน และนำไปสู่ผลประโยชน์สาธารณะสูงสุด นอกจากนี้จะต้องมีลดจำนวนขั้นตอนและเวลาสำหรับการ ดำเนินการ เพื่อ (ก) อำนวยความสะดวกและลดค่าใช้จ่าย และ (ข) ละทิ้งภารกิจที่ล้าสมัยและไม่จำเป็น
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance2.jpg)
ความมีประสิทธิภาพ
ในการบริหารรัฐกิจ วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์จำเป็นต่อการดูแล ความต้องการของประชาชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน การทำหน้าที่ตามพันธกิจเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์องค์กร เป้าหมายการดำเนินการต้องได้รับการระบุอย่างชัดเจน ในระดับที่ตอบสนองความคาดหวังของสาธารณะได้ อย่างที่น่าพึงพอใจ การสร้างกระบวนการการดำเนิน การอย่างเป็นระบบ การจัดการความเสี่ยง และมุ่งสู่ ความเป็นเลิศด้านสมรรถนะด้วยการติดตาม และการปรับปรุงการดำเนินอย่างต่อเนื่อง
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance3.jpg)
การตอบสนอง
การบริการรัฐกิจต้องจัดหาบริการคุณภาพ และสามารถ ทำบริการให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่มอบหมาย สร้างความมั่นใจและความเชื่อใจ ตอบสนองความ คาดหวังและความต้องการของผู้รับบริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างเป็นที่น่าพึงพอใจและเหมาะสม
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance4.jpg)
การรับผิดรับชอบ
การบริหารรัฐกิจต้องสามารถจัดการต่อคำถาม และทำข้อสงสัย ให้แจ่มแจ้ง ต้องทำให้มีระบบสำหรับรายงานความก้าวหน้า และสมรรถนะตามเป้าหมายสาธารณะเพื่อผลประโยชน์ ของการตรวจสอบ และการให้รางวัล/การลงโทษ เตรียมระบบเพื่อแก้ไข หรือหลีกเลี่ยงปัญหาและผลกระทบที่เป็นไปได้
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance1.jpg)
ความโปร่งใส
การบริหารรัฐกิจต้อง (ก) ถูกดำเนินด้วยความซื่อสัตย์และ ความตรงไปตรงมา (ข) เปิดเผยข้อมูลและข่าวสารที่จำเป็น และน่าเชื่อถืออย่างสม่ำเสมอต่อสาธารณะ และ (ค) ทำให้มีระบบที่เข้าถึงข้อมูลและข่าวสารได้ง่าย
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance2.jpg)
การกระจายศูนย์
ในการบริหารรัฐกิจ ควรมีการส่งต่อที่เหมาะสมของอำนาจ และการกระจายภาระหน้าที่ของการตัดสินใจ และการดำเนินงานแก่ ผู้ดำเนินงานในระดับต่าง ๆ การถ่ายโอนบทบาท และภารกิจต่อการดูแลท้องถิ่น และกลุ่มทางสังคมอื่น ๆ
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance3.jpg)
นิติธรรม
การบริหารรัฐกิจต้องใช้อำนาจของกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับอย่างเข้มงวด ยุติธรรม และไม่แบ่งแยก โดยคำนึงถึงสิทธิ และอิสรภาพของประชาชน และผู้มี ส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลาย
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance4.jpg)
ความเสมอภาค
การบริหารรัฐกิจต้องจัดหาการบริการที่เสมอภาค โดยไม่มีการแบ่งแยกระหว่างฐานะ เพศ ถิ่นกำเนิด เผ่าพันธุ์ เชื้อชาติ ภาษา อายุ และสภาพการณ์ทางกายภาพหรือสุขภาพ และอื่น ๆ โดยคำนึงถึงโอกาสที่เท่าเทียม สำหรับเข้าถึงบริการสาธารณะของผู้ด้อยโอกาสในสังคมด้วย
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance3.jpg)
การมีส่วนร่วม
การบริหารรัฐกิจต้องฟังความคิดเห็นของประชาชน และต้องเปิดใจต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการรับรู้ เรียนรู้ เข้าใจ และบอกมุมมองของตน แสดงปัญหาและ ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้อง กระบวนการตัดสินใจ และดำเนินการ และการติดตามสมรรถนะ
![](/wp-content/uploads/assets/img/about-kmutt/university-governance4.jpg)
เป็นไปตามฉันทามติ
การบริหารรัฐกิจต้องพยายามมุ่งหาฉันทามติ หรือการตกลง ร่วมกันในกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต้องไม่มีการคัดค้าน สำหรับประเด็นสำคัญโดยไม่ได้รับการแก้ไข