KMUTT partners with Asia Clean Energy Partners to host the Southeast Asia Corporate Decarbonization Exchange (CDx) 2024, jointly driving efforts to reduce atmospheric carbon emissions.
Date: October 1, 2024
Venue: Auditorium, 7th Floor, KX (Knowledge Exchange), Bangkok, Thailand
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ณ Auditorium ชั้น 7 อาคารเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้จัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการด้านความร่วมมือการลดการปล่อยคาร์บอนสู่บรรยากาศ Southeast Asia Corporate Decarbonization Exchange (CDx) 2024 ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ขององค์กรผู้นำด้านการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานภาคการศึกษาทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดย Asia Clean Energy Partners และ มจธ. เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มจธ. โดย ดร.กัญญวิมว์ กีรติกร รองอธิการบดีอาวุโสฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน ร่วมกับMr. Mark Lister Co-CEO ของ Asia Clean Energy Partners ที่ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์และความเป็นมาของงาน Southeast Asia Corporate Decarbonization Exchange (CDx)
Southeast Asia Corporate Decarbonization Exchange (CDx) เป็นผู้นำองค์กรด้านการลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ความรู้ความเข้าใจ แก้ไข และดำเนินการเกี่ยวกับความท้าทายด้านการลดคาร์บอนขององค์กรต่างๆ ผ่านการเรียนรู้และการอภิปรายแบบโต้ตอบที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการสนทนา เพื่อผลักดันให้องค์กรของประเทศสมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ได้ ตามที่แต่ละประเทศได้มีการประกาศเจตนารมณ์ในที่ประชุมระดับผู้นำสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Conference of Parties (COP) โดยในการประชุมสมัยที่ 28 ที่ผ่านมา มีประเทศสมาชิกที่ประกาศเจตนารมณ์กว่า 124 ประเทศ โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนสามเท่าและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ได้สองเท่าภายในปีค.ศ. 2573 โดยในการประชุมสมัยที่ 26 (COP26) ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสก๊อตแลนด์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ประเทศไทยก็ได้มีการประกาศเจตนารมณ์มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2065 และได้ดำเนินการเพื่อไปสู่เป้าหมายตลอดมาจนถึงปัจจุบัน