




STECO ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. จัดสัมมนาระบบสมรรถนะให้กับผู้บริหารและข้าราชการ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 โดย ศูนย์กลยุทธ์และความสามารถทางการแข่งขันองค์กร (STECO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมกับ สถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ (ป.ป.ช.) ภายใต้ “โครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบสมรรถนะของสำนักงาน ป.ป.ช.” ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ จังหวัดนนทบุรี และพร้อมเปิดให้เข้าร่วมผ่านระบบ Video Conference
บรรยากาศงานเต็มไปด้วยพลังแห่งความร่วมมือ ตั้งแต่ช่วงกล่าวเปิดงาน โดย คุณจุฑารัตน์ สุวารี ผู้อำนวยการสถาบันการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ เน้นย้ำว่า โครงการปรับปรุงและพัฒนาระบบสมรรถนะของสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับศักยภาพบุคลากร ให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะตรงกับภารกิจหลักของสำนักงาน พร้อมสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
ต่อด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชรพจน์ ทรัพย์สงวนบุญ หัวหน้าโครงการ ได้กล่าวถึงที่มาและความสำคัญของโครงการนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่าง STECO และสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อทบทวนและพัฒนาระบบสมรรถนะที่เหมาะสมกับบทบาทของบุคลากรในทุกระดับ โดยมุ่งเน้นให้ สมรรถนะ เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร และตอบโจทย์การขับเคลื่อนภารกิจของสำนักงาน ป.ป.ช. อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


สาระสำคัญของการสัมมนาในครั้งนี้ คือ การบรรยายและชี้แจงรายละเอียด โดย ดร.สันติชัย อินทรอ่อน ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารทรัพยากรมนุษย์และองค์การ ซึ่งได้แนะนำวิธีการนำ สมรรถนะหลัก สมรรถนะทางการบริหาร และสมรรถนะเฉพาะ ไปประยุกต์ใช้ในการบริหารบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและข้าราชการ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติจริง ทำให้เกิด การต่อยอดสู่การพัฒนาระบบสมรรถนะที่จับต้องได้และใช้ได้จริง
บรรยากาศภายในการสัมมนาเต็มไปด้วยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากผู้เข้าร่วมสัมมนา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยงานในการเสริมสร้างบุคลากรคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างโปร่งใสและยั่งยืน นอกจากนี้ ภายในการสัมมนายังมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เชิงปฏิบัติจริง การตั้งคำถามและอภิปรายร่วมกันอย่างเปิดกว้าง ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถนำแนวคิดและแนวปฏิบัติที่ได้รับไปปรับใช้กับบริบทของหน่วยงานตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ส่งเสริมการเรียนรู้แบบบูรณาการ และยกระดับความสามารถของบุคลากรให้สามารถตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ในยุคของการบริหารจัดการที่โปร่งใสและยั่งยืนได้อย่างแท้จริง




