เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2566 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันโคเซ็นแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KOSEN-KMITL) และสถาบันโคเซ็นแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KOSEN KMUTT) จัดงาน “ไทยโคเซ็น แฟร์ 2023 มิติใหม่การศึกษาไทยกับการเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม” ณ ห้องภิรัช ฮอลล์ 1 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร
โอกาสนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดย รศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี เข้าร่วมพิธีแสดงเจตจำนงความร่วมมือในการขับเคลื่อนโครงการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น อีกทั้ง โคเซ็น มจธ. ร่วมแสดงผลงานนักเรียนและแนวคิดการจัดการเรียนรู้ในงาน Thai KOSEN Fair 2023 ภายในงานมีการเเสดงผลงานนักเรียนโคเซ็น มจธ. ในสาขา Automation Engineering เเละ Bio Engineering นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม TED Talks การนำเสนอโครงงานที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ (ภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่น) ที่นำเสนอโดยนักศึกษาสถาบันโคเซ็น KOSEN-KMITLและนักศึกษาสถาบันโคเซ็น KOSEN-KMUTT กิจกรรมการเสวนา เรื่อง “วิศวกรพันธุ์ใหม่ : ไทยโคเซ็น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรม” กิจกรรมการนำเสนอผลงานจากโครงงาน PBL (Project Based Learning) ของสถาบันไทยโคเซ็น (ภาษาอังกฤษ/ญี่ปุ่น) และการอภิปรายเรื่อง “ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมด้วยวิศวกรไทยโคเซ็น”
งาน Thai KOSEN Fair จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดย สำนักงานโครงการ Thai KOSEN กระทรวง อว. เป็นโครงการที่มีความสำคัญในการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมเพื่อผลิตวิศวกรนักปฏิบัติที่มีความพร้อมทั้งทักษะและกระบวนการคิด ซึ่งเป็นทักษะวิชาชีพที่มุ่งเน้นสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่กำลังเป็นที่ต้องการในภาคอุตสาหกรรมของไทยและระดับสากล “สถาบัน Thai KOSEN นับได้ว่าเป็นตัวอย่างของการออกแบบการจัดการศึกษาในรูปแบบ Work-integrated learning ที่ให้นักศึกษาได้รับความรู้ทางทฤษฎีในระดับมหาวิทยาลัยเปรียบได้กับการใช้สติปัญญาควบคู่กับการเรียนรู้ การทำงาน มีกระบวนการคิดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงของภาคอุตสาหกรรมซึ่งเปรียบได้กับการใช้ทักษะการปฎิบัติงานจริง นักศึกษา Thai KOSEN ได้รับการเรียนรู้จาก คณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น และมีโอกาสไปแลกเปลี่ยนและฝึกงานกับภาคอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและญี่ปุ่นทำให้ได้พัฒนาทั้ง Soft skills และ Professional skills เพราะเป็นทรัพยากรสำคัญที่ช่วยสนับสนุนกำลังคนให้มีทักษะและสมรรถนะตามความต้องการของอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศได้ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด