แนะนำตัว “รุ่นพี่”
สวัสดีครับ พี่ “วิชัย ประมวญสมบัติ” เข้าบางมดปี 2532 รุ่นที่ 30 ครับ สมัยนั้นเรียกสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภาควิชาวิศวกรรมโยธา เป็นหลักสูตร 4 ปีรุ่นแรก เข้ามาเลยเจอรุ่นพี่ปี 2,3,4,5 และ 6,7,8 ประปรายครับ และเป็นรุ่นแรกที่แยกภาควิชาตั้งแต่สอบ Entrance รู้เลยว่าได้เรียนช่างอะไร ปัจจุบันทำงานที่ บริษัท อาคาร 33 จำกัด ตำแหน่ง ผู้จัดการโครงการ เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างงานอาคารกับทางราชการครับ
ความทรงจำสมัยเรียนที่ “บางมด” เป็นอย่างไร
สมัยเรียน บางมดเป็นสถาบันเฉพาะทาง มีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ รุ่นละประมาณ 400 คน คณะวิทยาศาสตร์รุ่นละ 160 คน ทำให้รู้จักกันแทบหมด แล้วใช้เวลาที่บางมดกันตลอดวัน เพราะลงช็อปกันทั้งวัน พี่ๆ ทั้งในภาค และต่างภาคก็ช่วยเหลือรุ่นน้องตลอด ในรุ่นเดียวกันรู้จักจำหน้ากันได้ทุกคน แต่เรียนกันหนักมาก อาจารย์เก่งๆ เยอะมาก แต่ยังเชิญอาจารย์เฉพาะทางมาอีก ทั้งจากกรมทางหลวง กรมชลประทาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำได้ว่าเพื่อนที่เครื่องกล อุตสาหการ ไฟฟ้าเรียนกัน 170 กว่าหน่วยกิต ใน 4 ปี เรียนหนักแต่สนุก ได้ลงมือฝึกทำงานจริงตลอด อย่างช่างโยธาต้องฝึกงานไม้ งานเดินท่อประปา งานก่ออิฐฉาบปูนเสมือนกับเรียนสายเทคนิค ประทับใจอาจารย์ด้วยที่ช่วยเหลือทั้งหางาน หาเงินมาสนุบสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของนักศึกษา เรียกว่าปรึกษาได้ทุกเรื่อง
คิดว่าเอกลักษณ์ของ “เด็กบางมด” คืออะไร
ภาพจำของเด็กบางมด คือ “การเป็นวิศวกรคุณภาพ” ที่มีความสู้งานไม่มีถอย หนักเอาเบาสู้ ไม่มีทำไม่ได้ วิเคราะห์ วางแผนงานได้ แต่ไม่โปรโมทตัวเอง MD (กรรมการผู้จัดการ) ของพี่เคยบอกไว้ คิดว่าน่าจะใช่ประมาณนี้ พี่เคยทำงานที่มีที่ปรึกษาเป็นวิศวกรออสเตรเลีย เขาบอกว่าพี่เป็น Best contractor in Thailand ก็มาจากสถาบันที่สอนเรามา ให้รู้จักการวิเคราะห์วางแผนให้งานประสบความสำเร็จได้
มีเคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จอย่างไร
เด็กบางมดมักจะทำงานให้มากกว่าพูด ให้เนื้องาน ผลของงานบอกถึงคุณภาพของตัวเอง ต้องประสานทีมงานทั้งผู้อาวุโสกว่าด้านวัยวุฒิ และคุณวุฒิ และผู้เยาว์กว่า ต่อผู้อาวุโส ต้องอ่อนน้อม ให้เกียรติ แต่กล้าทักท้วงเสนอแนวทางที่คิดว่าถูกต้องตามหลักวิชาและจรรยาบรรณ ต่อผู้เยาว์กว่า ต้องพร้อมรับฟัง สามารถอธิบายวิธีการทำงานที่สั่งไปได้ และให้คำแนะนำที่ถูกต้องดูแลจนถึงครอบครัวเขาตามอัตภาพ เพื่อให้เขาสามารถทำงานได้แบบเต็มใจและสบายใจ ในการทำงานย่อมพบอุปสรรคปัญหา บางทีก็แก้ไขได้เอง บางทีต้องกล้าขอปรึกษาผู้อื่น ขอคำแนะนำแล้วนำมาปรับใช้แก้อุปสรรคปัญหาของเรา เพราะเราย่อมไม่รู้ไปทุกเรื่อง ต้องศึกษาหาข้อมูลใหม่ ๆ ตลอดเวลา เพราะวิชาช่างมีความก้าวหน้าไปตลอด
แนะนำการปรับตัวให้น้องๆ ที่กำลังเรียนจบ และการหางานช่วง COVID-19
ยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปจากสมัยก่อนตามกาลเวลา น้อง ๆ ที่เรียนจบก็พิสูจน์ว่ามีความรู้ความสามารถ อย่างน้อยผ่านเกณฑ์มาตรฐานของบางมด ต้องมีความเชื่อมั่นในตนเอง เวลาสมัครงานมีสอบสัมภาษณ์ออนไลน์ ก็ควรแต่งกายให้เรียบร้อย มีสมาธิกับคำถาม คิดทบทวนก่อนให้คำตอบ ต้องสำรวจตนเองว่าอยากทำงานด้านใด จึงเสาะหาองค์กรที่เหมาะกับตัวเอง พี่ยังเชื่อว่างานด้านช่าง ด้านเทคโนโลยี ยังต้องการแรงงานเข้ามาในระบบอีกมากที่ผ่านมาหลายปี เด็กบางมดเป็นนักศึกษาที่จบมาแล้วมีโอกาสในการเลือกองค์กรที่ต้องการไปทำงานได้ และยังเป็นเช่นนั้นจนถึงปัจจุบันนี้
การสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร มีความสำคัญกับการทำงานอย่างไร
การทำงานในชีวิตจริง ย่อมไม่สามารถทำงานให้สำเร็จโดยเราคนเดียวได้ ทีมงาน คู่ค้า บริษัทรับช่วงงาน เป็นทีมที่ต้องประสานให้งานเดินอย่างราบรื่น ดังนั้นเราต้องมีพันธมิตรที่จะเดินไปกับเรา ดังคำพูดที่ว่า “เดินคนเดียวเดินได้เร็ว เดินพร้อมกันหลายคนเดินได้ไกล” ถ้าทำได้ งานก็จะเดินหน้าอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ และผลักดันให้เรากล้าเดินในทางที่กว้างขึ้น ทางยาวขึ้น เพราะเรามั่นใจในทีมของเรา
ฝากข้อความจาก “รุ่นพี่” ถึง “รุ่นน้อง”
สิ่งที่สำคัญที่อยากจะฝากไว้ คือ “ต้องใช้ชีวิตแบบปรับสมดุล” เนื่องจากวิชาชีพพวกเรา จะได้ผลตอบแทนที่เพียงพอ สามารถดำรงอยู่แบบมีศักดิ์ศรีได้ ส่วนที่เหลือจาการสะสม ต้องตอบแทนคืนสังคม เพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกัน ไม่ว่ากลับไปช่วยเหลือโรงเรียน สถาบัน มหาวิทยาลัย หรือผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเรา ฝึกการเป็นผู้ให้เมื่อมีโอกาส เพราะเราเป็นผู้รับมาตลอดในตอนเรียนที่บางมด ต้องถือว่าเป็นนักเรียนทุนประชาชนทุกคน เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินมาผลิตพวกเราให้ออกไปสร้างความเจริญ ความก้าวหน้าแก่บ้านเมืองแก่ประเทศ ขอให้พวกเรายึดถือความถูกต้องของวิชาชีพเป็นหลัก และเป็นผู้ให้แก่ส่วนรวมเมื่อมีโอกาส