สาวน้อยตัวเล็กแววตาสดใส ศิษย์เก่า วมว. คนนี้มีชื่อว่า “นางสาวพิชชานภา นุ่นโต หรือพิ้งค์” กับความเก่งรอบด้านซึ่งเป็นที่ประจักษ์ในเวทีการแข่งขันสอบวัดทักษะวิชาการระดับนานาชาติ (สวช.) คว้าคะแนนอันดับ 1 ของประเทศในรายวิชาภาษาอังกฤษ (ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย)
ความรักในภาษาอังกฤษ ทำให้มีวันนี้
น้องพิ้งค์เล่าว่าเธอชอบเรียนรู้ทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง ไม่เว้นแต่งานอดิเรกยามว่างอื่น ๆ ก็ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาอังกฤษทั้งสิ้น เรียกได้ว่าภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เธอรักมาก ๆ แน่นอนว่านี่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยหล่อหลอมให้น้องมีความสามารถทางภาษาเป็นที่โดดเด่นมาโดยตลอด จนมาถึงรางวัลล่าสุดของสวช. ซึ่งเป็นรางวัลด้านภาษาที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตมัธยมปลาย และนำความปลื้มปีติมาให้เธอและครอบครัวเป็นอย่างมาก
ความรู้สึกหลังทราบผลคะแนน
“เหมือนเราอยากเทสตัวเองมากกว่าค่ะ พอผลออกมาดีก็รู้สึกว่า อืม…เรายังพอได้อยู่นะ” น้องพิ้งค์ตอบมาด้วยความจริงใจพร้อมด้วยยิ้มจนตาเป็นสระอิ และขยายความเพิ่มเติมว่ามันคือความภาคภูมิใจในตัวเองที่ความพยายามของเรามันผลิดอกออกผลคุ้มค่าตามที่เราลงแรงไว้
สุดปลื้มกับการสอบติดแพทย์มหิดล
นอกเหนือจากผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษปัง ๆ ที่ได้เล่าไปแล้ว วันนี้น้องพิ้งค์ก็มีข่าวดีอีกเรื่องมาแจ้งให้ทราบด้วย นั่นก็คือตอนนี้น้องมีสถานะเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยมหิดล ในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต – การจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) สาขา HEALTHCARE AND WELLNESS MANAGEMENT ซึ่งจะได้เรียนหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 6 ปี และเพิ่มการเรียนในหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต (นานาชาติ) จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล อีก 1 ปี รวมเวลาศึกษา 7 ปี เป็นการเรียนที่ควบปริญญาถึง 2 ใบ ซึ่งแน่นอนว่าทักษะทางภาษาอังกฤษที่น้องพิ้งค์รัก ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เธอพิชิตข้อสอบสุดหินจนสามารถเข้าคณะที่ใฝ่ฝันได้ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งปังขึ้นไปอีกใช่ไหมล่ะ กับความเก่งของสาวน้อยคนนี้ น่าภูมิใจแทนครอบครัวของน้องจริง ๆ
นั่ง Time machine กลับไปช่วงที่เรียนอยู่ วมว. กันหน่อย
เล็งสายวิทย์ไว้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ จนมาเจอวมว. รู้สึกว่าที่น่าสนใจมาก ๆเพราะจะได้ทำโปรเจคด้วย การสอบก็แตกต่างจากที่อื่น ๆ เพราะมีการสอบทั้งความรู้พื้นฐาน ทดสอบเชาว์ปัญญา และมีโปรเจคเล็ก ๆ ให้เราลองลงมือทำอีกด้วย รู้สึกว่าโรงเรียนนี้ค่อนข้างนอกกรอบ ถูกใจใช่เลยค่ะ สำหรับชีวิต 3 ปีที่นี่ ช่วงแรกก็เน้นการปรับตัวค่ะ เนื่องด้วยเป็นโรงเรียนประจำต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ ใช้เวลาด้วยกันเยอะ วิชาโปรเจคก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้นักเรียนปรับตัวเข้าหากันได้ไวขึ้น พอมาช่วง ม.5 กิจกรรมเยอะสุด ๆ ไปเลย ทุกคนได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองกันเต็มที่หลากหลายสไตล์ มาถึง ม.6 เน้นเตรียมสอบกันแล้ว เป็นช่วงเวลาแห่งการให้กำลังใจกัน นับว่าเพื่อนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เป็น 3 ปีที่มีความสุขในรั้ว วมว. ค่ะ
เด็ก วมว. สายชิลล์
ว่ากันว่าที่ วมว. เป็นแหล่งรวมความหลากหลายและความเป็นตัวของตัวเองของนักเรียน สำหรับน้องพิ้งค์ ได้นิยามความเป็นตัวเองไว้ว่า จัดอยู่ใน “สายชิลล์” เธอมักจะทำทุกอย่างอย่างสบาย ๆ ไม่กดดัน เวลาว่างน้องพิ้งค์ชอบปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อน และแวะให้อาหารปลา หรือนั่งเล่นร้องเพลงกับเพื่อน ๆ แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมของที่นี่ซึ่งตั้งอยู่ภายในมจธ.บางขุนเทียน เป็นบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และความผ่อนคลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับน้อง ๆ สายชิลล์ หรือสายไหนก็ตาม น้อง ๆ ก็สามารถมีความสุขในแบบของตัวเองเมื่อได้เรียนที่นี่
การเรียนการสอนที่แตกต่างเพื่อสร้างวิวัฒนาการ
ที่นี่สอนแบบ Story Based Learning ค่ะ โดยจะมีการเรียนวิชาพื้นฐานแบบที่อื่น ๆ และมีวิชาเพิ่มเติมของที่นี่เป็นพิเศษ อีกเรื่องที่ต่างออกไปคือเราจะเรียนแบบจัดวางเป็นทามไลน์ตั้งแต่ช่วงกำเนิดโลก และมีการปูพื้นฐานเรื่องการทำโปรเจคให้ตั้งแต่ ม.4 เลยค่ะ ส่วนวิชาพิเศษสนุก ๆ ก็มีให้เรียนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวิชาการช่าง หรือการทำแลปวิจัยอีกด้วยค่ะ ใครกังวลเรื่องการปรับตัวกับการเรียน ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ อาจารย์ที่นี่จะคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและใจดีกับเรามาก ๆ เลย มาอยู่ที่นี่คุณพ่อคุณแม่ประทับใจเลยค่ะ ดูแลเราดีมาก เหมือนทำให้เราโตขึ้น รู้จักดูแลตัวเอง ส่วนตัวหนูมองว่าพอได้มาเรียนที่นี่ “ทุกคนจะ Evo ขึ้น” ทั้งสดใสขึ้น มั่นใจขึ้น หรือค้นพบสิ่งที่ตัวเองสนใจ และค้นพบตัวตนที่แท้จริง
ชีวิตที่เราออกแบบเอง
“ค้นหาตัวเองให้เจอและออกแบบชีวิตให้เหมาะกับตัวตนของเรา” ว่าเราควรเรียนแบบไหน พักตอนไหน ใช้ชีวิตยังไงให้แฮปปี้ การหาสิ่งที่เข้ากับตัวเองได้นั้นสำคัญที่สุดเลยค่ะ อย่างเช่นหนูที่เป็นสายชิลล์ก็เน้นเรื่องการแบ่งเวลาเพื่อให้เราได้มีความสุขกับทุกอย่างที่เราอยากทำ การจัดลำดับความสำคัญของทุกอย่างรอบตัวว่าควรทำอะไรตอนไหน ถ้าน้อง ๆ กำลังกังวลเรื่องชีวิต การเรียน การทำกิจกรรมของตัวเอง ก็ลองนำไปปรับใช้กันได้นะคะ
เต็มที่เพื่อจุดมุ่งหมายแต่ไม่ลืมเก็บเกี่ยวความสนุกระหว่างทาง
ณ ตอนนี้หนูมีความสุขกับตัวเองมากค่ะ อยากใช้ชีวิตมหาวิทยาลัยให้สนุกและคุ้มค่าที่สุด ทำทุกอย่างให้เต็มที่ และหากมองไกลออกไปอีกหน่อย หนูจะเรียนจบหมอให้ได้และจะทุ่มเทกับอาชีพนี้ให้สุดความสามารถเท่าที่หมอคนนึงมีกำลังจะทำ อนาคตอาจจะเรียนต่อหรือทำวิจัยในโปรเจคที่เราสนใจ พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างทางให้มากที่สุด เพราะเราอาจจะค้นพบอะไรใหม่ ๆ ที่มาปรับเปลี่ยนมุมมองของเราอีกในอนาคตค่ะ
อยากบอกอะไรกับ วมว.
ไม่มีคำอื่นนอกจาก “ขอบคุณจากใจค่ะ” อยู่ที่นี่หนูได้รับโอกาสในการลองผิดลองถูก ได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ มีสังคมเพื่อนที่พร้อมช่วยเหลือกันรายรอบตัว ความอบอุ่นจากคุณครูที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นครอบครัว ที่นี่พร้อมโอบรับทุกความหลากหลายและปลูกฝังแนวความคิดและทัศนคติที่ดีให้นักเรียน ให้เราพร้อมปรับตัวเข้าหาสิ่งแวดล้อมใหม่ เพื่อนใหม่ และการเรียนใหม่ ๆ เรียกว่าเป็นที่ที่ทำให้เรามีความพร้อมไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจในรั้วมหาวิทยาลัย หรือในอนาคตข้างหน้าต่อไปด้วยค่ะ