













มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้จัดการประชุมวิชาการ เรื่อง “ความรู้และการวิจัยเพื่อสังคมที่เท่าเทียม” (Knowledge and Research for Inclusive Society Seminar : KRIS) ระหว่างวันที่ 24 – 25 พฤศจิกายน 2568 ณ อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ มจธ. เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ การประชุมวิชาการมีหน่วยงานภาคีประกอบด้วย มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) (สวพส.) สมาคมเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษาแห่งประเทศไทย (Thai Association for Educational Technology and Communications ThaiAECT) และ IEEE Education Society (EdSoc)
การประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ การถอดบทเรียนจากการทำงานวิจัยเพื่อชุมชน ตลอดจนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ ภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโจทย์วิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคมไทยในมิติต่าง ๆ ได้อย่างรอบด้าน งานนี้ยังได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมปาฐกถาพิเศษ 2 ท่าน ได้แก่ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการและกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ บรรยายหัวข้อ “เปลี่ยนความเหลื่อมล้ำเป็นความเข้มแข็ง ท่ามกลางความเปราะบางและโอกาส” และ พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ศ.ดร.) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร บรรยายหัวข้อ “หลักคิดในการมองสังคมที่เท่าเทียม (Paradigm for Inclusive Society)”
นอกจากนี้ มีการนำเสนอผลงานวิจัยกว่า 80 เรื่อง ทั้งในรูปแบบบรรยายและโปสเตอร์ ครอบคลุมประเด็นสำคัญ 7 ด้าน ได้แก่
- ด้านสุขภาพและสาธารณสุข
- ด้านการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
- ด้านความมั่นคงด้านอาหาร
- ด้านการจัดการน้ำ พลังงาน และสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาชุมชน
- ด้านสังคมผู้สูงอายุและคนพิการ
- ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทั่วถึง
- ด้านสหวิทยาการเพื่อการจัดการชุมชน
พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิชาการ ประกอบด้วย นิทรรศการ 5 ทศวรรษ KMUTT Social lab, นิทรรศการมีชีวิต กิจกรรมประกอบด้วย งานแสดงจักสานและหัตถกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์มละบริ นิทรรศการเสียงจากป่าบาลาฮาลา พร้อมร่วมประดิษฐ์คังด้งหรือโมบายจากกลุ่มชาติพันธุ์ และนวดคอบ่าไหล่เพื่อผ่อนคลายโดยผู้พิการที่ใบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตลาดวัฒนธรรม เปิดพื้นที่ให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้และสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวาง การจัดงานประชุมงานวิชาการครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ มจธ. และเครือข่ายพันธมิตรได้ร่วมกันขับเคลื่อนองค์ความรู้และการวิจัยให้ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมอย่างแท้จริง อันจะนำไปสู่การต่อยอดนวัตกรรม การพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ และการประสานพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อมุ่งสู่สังคมที่เท่าเทียมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต












