เมื่อสิ่งสำคัญกับสิ่งที่รักไปด้วยกันได้…รู้จักตัวตนของ “กลัฟ”

โดย คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์


สวัสดีครับ ผมกลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ นักศึกษาเก่าชั้นปีที่ 4 ภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ปัจจุบันเป็นนักแสดง และตอนนี้มีผลงาน “TharnType the Series เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ” ออกอากาศทาง Line TV ครับ


เล่าเรื่องชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยให้ฟังหน่อย

ผมว่าที่นี่เราอยู่กันเป็นแบบครอบครัว ยิ่งถ้าเป็นในภาควิชายิ่งทำให้รู้สึกแบบนั้น รู้สึกอบอุ่น เลยทำให้มาเรียนแบบไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ครับ เวลาไปเรียนก็สามารถพูดคุยกับคนอื่นๆ ในภาควิชา ทั้งเพื่อน อาจารย์ หรือว่าเป็นบุคลากรในภาควิชา ก็คอยสอน คอยให้คำปรึกษา ให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับเรา เรียกได้ว่าเหมือนกับเป็นคนในครอบครัวเลยครับ


เริ่มเข้าวงการได้อย่างไร

เริ่มเข้าวงการต้องย้อนไปตั้งแต่ช่วงประมาณมัธยมศึกษาตอนต้นครับ ก็คงเหมือนใครหลายๆ คนที่เป็นวัยรุ่นทั่วไปที่เดินเที่ยวสยามกับเพื่อนตามปกติ จนวันหนึ่งมีพี่คนหนึ่งเข้ามาชวนไปทำงานวงการบันเทิง ก็ได้เริ่มไปแคสและถ่ายโฆษณาเล็กๆ น้อยๆ และได้มีโอกาสแสดงละครเรื่องแรกคือ “มาเฟียเลือดมังกร ตอน สิงห์” โดยรับบทเป็น ทรงกลด หรือ ที (พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ตอนวัยหนุ่ม) ของทางช่อง 3 ครับหลังจากนั้นก็เหมือนเป็นช่วงรอยต่อระหว่างที่จะเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยเลือกเรียนให้จบชั้นมัธยมศึกษา พอเข้ามหาวิทยาลัยเราก็ได้มีโอกาสไปแคสซีรีส์เรื่อง “TharnType the Series เกลียดนักมาเป็นที่รักกันซะดีๆ” รับบทเป็น “ไทป์” ซึ่งก็เป็นนักแสดงนำเรื่องแรกในชีวิตเลยครับผม


ได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานตรงนี้

ผมคิดว่า สิ่งที่สำคัญคือ ความมุ่งมั่นและทุ่มเทครับ กับการแสดงผมเป็นคนที่ตั้งใจมากๆ ตั้งใจเป็นพิเศษ เพื่อให้ผลงานการแสดงที่ผมแสดงนั้นออกมาให้ดีที่สุด เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจที่จะให้ทุกคนได้ชมผลงานดีๆ และก็ตัวผมเองก็รักสิ่งนี้ รักสิ่งที่ผมทำ ก็เลยอยากให้มันออกมาดีที่สุดครับ สิ่งสำคัญของการเข้ามาทำงานตรงนี้ ผมว่าการแบ่งเวลา คือสิ่งที่สำคัญมาก เพราะหน้าที่หลักของเราก็คือการเรียน สำหรับผมการเรียนก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ส่วนการแสดงก็เป็นสิ่งที่ผมรัก ผมก็พยายามแบ่งเวลาเพราะนอกจากการต้องไปถ่ายทำแล้ว ก็ยังต้องมีการอ่านบทก่อนไปถ่าย หรือการอ่านหนังสือสอบ การแบ่งเวลาจึงจำเป็นมากๆ แต่ผมก็จะพยายามรับงานไม่ชนกับตารางเรียนหรือสอบ แต่โชคดีที่ตอนถ่ายทำซีรีส์มีการสลับช่วงการฝึกงานทำให้ไม่กระทบต่อการเรียน และฝึกงานในการเรียนปีสุดท้ายของผมครับ


นำความรู้จากการเรียน มจธ. ไปปรับใช้

กับการทำงานอย่างไรบ้างผมเรียนภาควิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา เป็นการเรียนที่นำเอาเทคโนโลยีการศึกษาและเทคโนโลยีสื่อสารมวลชนมาผสมผสานและประยุกต์ใช้เพื่อผลิตสื่อสำหรับการสื่อสารที่มีคุณภาพ ในส่วนของการแสดงเป็นงานเบื้องหน้า แต่เราได้เรียนเกี่ยวกับงานเบื้องหลังทั้งกระบวนการถ่ายทำ การผลิต การใช้อุปกรณ์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเข้าใจการทำงานร่วมกับคนเบื้องหลังมากขึ้น ทำให้การทำงานง่ายขึ้น ราบรื่น และเป็นไปได้ด้วยดีครับ


ฝากถึงชาว มจธ. ที่มีความฝันและอยาก

มีโอกาสที่จะทำตามฝันเหมือนกลัฟก็อยากจะฝากถึงน้องๆ เพื่อนๆ ทุกคนนะครับ ถ้าเรามี สิ่งที่เราชอบ หรือว่าเป็นสิ่งที่เราตั้งใจอยากจะทำ ขอให้เราลงมือทำไปเลยครับ สุดท้ายแม้ว่ามันจะไม่ประสบ ความสำเร็จ แต่เราก็ได้ลองทำมัน อย่างน้อยเราก็จะได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์ อาจจะมีอุปสรรคบ้าง ทำให้เราผิดหวังบ้างเราก็ไม่ควรท้อครับ ลุกขึ้นมาทำใหม่ กว่าผมจะมาถึงจุดนี้ได้ผมใช้เวลาอยู่ในวงการมาทั้งหมด 7 ปีครับ แต่ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของผม และผมก็ก้าวไปข้างหน้าต่อไป ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่มีความฝันครับ