“ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย 4 ปี มันสั้น ใช้ชีวิตให้มีความสุขและสนุกกับมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด” จิตรพล พฤกษ์ภัทรกุล

คุณจิตรพล พฤกษ์ภัทรกุล ประกอบธุรกิจส่วนตัว

นักศึกษาเก่าภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์

ระดับปริญญาตรี ปีที่เข้าศึกษา 2541 ระดับปริญญาโท ปีที่เข้าศึกษา 2546

ความทรงจำสมัยเรียนที่ มจธ.

สมัยที่เรียนอยู่ที่ภาควิชา เราเป็นคนสายกิจกรรม ชอบทำกิจกรรม พอเราเข้ามาในมหาวิทยาลัยปีแรก เราก็ได้เข้าร่วมประกวดมิสเตอร์เฟรชชี่มหาวิทยาลัย และตัวเรานั้นเป็นคนแรกของภาควิชาที่สามารถคว้าที่ 1 มาได้ และยังได้เป็นประธานรุ่นตั้งแต่ปี 2 ถึงปี 4 ส่วนใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัยของเราจะเป็นเรื่องงานกับกิจกรรม ส่วนเรื่องเรียนยู่ในระดับกลางๆ ในช่วงที่เราเรียนอยู่ก็จะมีกิจกรรมรับน้อง จนถึงปัจจุบันจึงทำให้เรามีรุ่นพี่ มีเพื่อน มีรุ่นน้อง ที่เราได้ไปใช้บริการ ล่าสุดมีรุ่นน้องที่เป็นน้องรหัส เพิ่งไปติดตั้งระบบน้ำเสียของโรงงานให้กับเรา เพราะเราเองก็ทำโรงงานอุตสาหกรรม เป็นโรงงานพ่นสีฝุ่น (Powder Coating) จึงอาจจะเกิดน้ำเสียได้บ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะ แต่ในตอนท้ายที่สุด เมื่อเราจบด้านสิ่งแวดล้อม เราก็จะคำนึงถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ให้สมกับที่ได้เรียนจบทางด้านนี้มา ในส่วนของโรงแรมของเรา ก็ได้ไปใช้บริการรุ่นน้องจากบางมด ในการออกแบบระบบออนเซ็น ตัวโรงแรมของเราเป็นโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น รุ่นน้องที่ออกแบบให้เราเป็นรุ่นที่ 19 เราเป็นรุ่นที่ 7 ส่วนน้องคนที่ออกแบบระบบน้ำเสียคือรุ่นที่ 8 และโรงแรมของเราก็ใช้รุ่นน้องบางมดจาก คณะสถาปัตย์ในการออกแบบ โดยรุ่นพี่เป็นคนออกแบบเฟสใหญ่ รุ่นน้องออกแบบเฟสเล็ก มาจากคณะสถาปัตย์ทั้งคู่ เพราะฉะนั้น การที่เรามีมหาวิทยาลัยเป็นจุดยึดเหนี่ยว พอได้เจอรุ่นพี่หรือรุ่นน้องมันง่ายที่จะสื่อสาร ไม่ต้องกลัวการโกงหรือโก่งราคา เป็นความสบายใจอย่างหนึ่งในการทำงาน ตอนเรียนก็เฮฮา สนุกสนาน ได้เรียนด้วยกัน ทำแลปด้วยกัน หรือปิดเทอมก็ไปเที่ยวกัน

ฝากถึงน้องๆ ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา

ฝากไว้สำหรับรุ่นน้องที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาหรือกำลังเรียนอยู่ ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย 4 ปี มันสั้น ใช้ชีวิตให้มีความสุขและสนุกกับมัน กับเพื่อน ครูบาอาจารย์ รุ่นพี่ รุ่นน้อง มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงาน

ด้วยความที่เราทำธุรกิจหลายอย่าง เราจึงมีพนักงานเข้ามาสมัครงาน แม้กระทั่งรุ่นน้องก็ดี วิศวกรก็ดี ทำให้เรารู้สึกว่าพื้นฐานการทำงานแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่ม Receiver (กลุ่มรับสาร) และกลุ่ม Sender (กลุ่มส่งสาร) ตามทฤษฎีการรับสารก็จะประกอบไปด้วยการอ่าน การฟัง ส่วนการส่งสารก็มีออกไป 2 แบบ การอ่านและการฟังมันคือการที่เรารับข้อมูลเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลหรือคำสั่ง ถ้าเราไม่เข้าใจมันจะเป็นปัญหา ตัวเราเจอบ่อยมาก ไม่ว่าจะเป็นเด็กรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่าก็เป็นกัน ไม่อยากให้เด็กรุ่นใหม่พลาดเรื่องนี้ไป เพราะมันคือเรื่องสำคัญ คือการสื่อสาร การที่เรารับสารมา เราต้องรู้ก่อนว่าเขาสื่อสารอะไร คนแต่ละวัย แต่ละช่วงอายุ แต่ละคนมีความรู้แตกต่างกัน ต้องรู้ว่าเขาสื่อสารอะไร นี่เป็นทักษะพื้นฐาน เมื่อเรารับสารเขามาแล้ว เราจะส่งออกยังไง เพราะฉะนั้น การฟังหรือการอ่านให้เข้าใจสำคัญมาก และต้องรู้ว่าเราจะส่งข้อมูลออกไปให้ใคร จะสื่อสารยังไง บางคนอาจจะเก่งมากแต่พูดไม่รู้เรื่อง เพราะเขาเข้าใจตัวเองอยู่คนเดียว สื่อสารออกมาไม่เก่งแต่ว่าอ่านเก่ง ปัญหาหลายอย่างบนโลกใบนี้ ส่วนหนึ่งมันมาจากการสื่อสาร เช่น ปัญหาความขัดแย้งของเพื่อนฝูง รุ่นพี่รุ่นน้อง เพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งในครอบครัว สิ่งแรกเลยคือ การไม่สื่อสาร ถ้าไม่สื่อสารคือผิดแน่นอน ทางที่สองคือ การสื่อสารผิดวิธี ทางที่สามคือ การสื่อสารถูกวิธี แต่ผิดจังหวะหรือผิดเวลา เพราะฉะนั้นเราจึงคิดว่าการสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญ พอทำธุรกิจมานาน ทำให้เราเห็นว่าการสื่อสารเป็นทักษะพื้นฐานที่ทุกคนควรจะฝึกฝน บางคนอาจจะเก่งมาก แต่ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะว่าสื่อสารได้ไม่ดี

เคล็ดลับในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ

พอได้ทำธุรกิจบ่อยๆ เราก็มีโอกาสได้เจอคนระดับประเทศ แล้วได้มีโอกาสนั่งคุยกับพี่คนนึงที่เป็นเจ้าสัวระดับหมื่นล้าน เขาเล่าให้ฟังว่าเขาได้เจอคนเก่งๆ หรือคนรวยๆ ระดับประเทศเยอะมาก แต่ละคนจะมีบุคลิก ความสามารถ ความคิดที่พิเศษและแปลกไป เช่น บางคนคำนวณได้เร็วมาก บางคนความจำดีมาก บางคนสื่อสารได้ดีมากแม้กระทั่งตัวเขาเองก็มีความแปลก เช่น เขาชอบนัดเวลาประชุมแปลกๆ สมมุติว่านัดตอน 15:42 น. ซึ่งเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ ปกติคนจะนัดเวลาครึ่งหรือว่าเต็ม แต่เขาเลือกที่จะประชุมตอนเวลาที่ไม่ปกติ แล้วใครมาเลทเขาจะไล่ออกเลย ครั้งเดียว หลังจากนั้นไม่เคยมีใครกล้าเลทอีกเลย อันนี้เป็นเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง ซึ่งคนเก่งๆ ทุกคนที่เขาเจอ จะมีความแปลกประหลาดแตกต่างกันออกไป จำเก่ง คิดเก่ง สื่อสารเก่งแค่ไหน แต่สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ ทุกคนมีความอดทน เป็นคุณสมบัติหลักของคนที่จะประสบความสำเร็จ ไม่มีใครที่อดทนแล้วไม่สำเร็จ เขาบอกว่า คนที่เขาเจอ ทุกคนอดทนหมด ไม่ว่าจะเป็นคนดีไม่ดี ก็แล้วแต่ แต่พอเขาประสบความสำเร็จ สิ่งที่เขาค้นพบคือ ทุกคนอดทนกันมาก เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญในชีวิตอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะทักษะอื่นใดก็แล้วแต่ เราต้องอดทน ไม่ว่าจะทนต่อความยากลำบากในการเรียน ทนต่อคำพูดคน หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่ยากลำบากในชีวิต เราจะประสบความสำเร็จหรือผ่านมันไปได้ เราต้องอดทน